เปิดขุมทรัพย์ ‘ฟลุค เกริกพล’ เป็นเศรษฐีระดับประเทศเคียงคู่ภรรยา
พระเอกสุดหล่อแห่งยุค 90 คนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จสูง ทั้งกระแสความนิยม ยอดเรตติ้งละคร พ่วงด้วยรางวัลการันตี
ต้องยกให้ดาราหนุ่มคนนี้เลย ฟลุค เกริกพล ที่นับตั้งแต่เข้าวงการมาจนถึงวันนี้ เขายังคงความหล่อเอาไว้ไม่มีเปลี่ยน
แม้จะห่างหายจากงานละครไป แต่ด้านข่าวบันเทิง ชื่อของเขาก็ยังเป็นที่สนใจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ครอบครัว
ธุรกิจต่าง ๆ
จากบทบาทนักแสดง เขาได้พัฒนาตัวเองไปสู่การเป็นเจ้าของรายการ หนีเที่ยวกัน ของตัวเอง ปัจจุบัน ฟลุค เกริกพล มา
ทำรายการร่วมกับ นาตาลี บนช่องยูทูบชื่อว่า FlukeLee หากใครสนใจก็ไปติดตามกันได้ นอกจากชีวิตในวงการบันเทิง
หนุ่มฟลุคยังเป็นคนที่สนใจด้านการลงทุนมาตั้งแต่อายุ 19 ปี เมื่อมีรายได้จากการแสดงก้อนโตเข้ามาตั้งแต่วัยรุ่น ช่วงแรก ๆ
คุณพ่อของเขาก็เข้ามาช่วยบริหารจัดการเรื่องการเงิน โดยเปิดพอร์ตนำเงินไปลงทุนในหุ้น แต่เมื่อโตขึ้นฟลุคก็ได้เรียนรู้การบริหาร
ความเสี่ยง เริ่มลงทุนในสิ่งที่ตัวเองถนัดและชอบ ทั้งในตลาดหุ้น คอนโดมิเนียม บ้าน รวมทั้งซื้อของที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น
นาฬิกา ไวน์ เลือกลงทุนในหลาย ๆ สินทรัพย์ ซึ่งในช่วงหลังเขาเฟดตัวจากงานละครและผันตัวไปทำธุรกิจมากขึ้น
หลังจากปรับบทบาทจากนักแสดง พิธีกร มาสู่วงการธุรกิจ ฟลุค เกริกพล ก็ก้าวขึ้นมานั่งแท่น MD บริษัท FAB Creation
โปรดักชั่นเฮ้าส์ ผู้ผลิตรายการ หนีเที่ยวกัน ทาง WorkPoint TV และยังเป็นผู้บริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเสริม CEO Bhip
thailand ต่อเนื่องมานานหลายปี รวมถึงเป็นกูรูในด้านการบริหารจัดการเงิน มันนี่โค้ช วิทยากร นอกจากนั้นยังเป็นยูทูบเบอร์
ทำรายการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์คอยอัปเดตแฟน ๆ และกลับมารับงานละครบ้างพอให้หายคิดถึงอีกด้วย
“จริงๆ แล้วผมว่าเป็นชีวิตส่วนตัวของเรา แล้วผมรู้สึกว่าผมทำอะไรที่ตัวเองมีความสุข ผมไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ คือคนเรา
ทุกคนจะรู้ได้ยังไงว่าเราจะมีชีวิตอยู่ไปจนถึงเมื่อไหร่ ดังนั้นทำในสิ่งที่เรามีความสุขและไม่รบกวนคนอื่นหลายๆ คนอาจจะคิด
ไม่เหมือนกัน อาจจะคิดว่าทำไม ใช้เงินเยอะ ก็เราหาได้ เราก็ตอบแทนตัวเองระดับหนึ่ง แต่ผมย้ำผมใช้น้อย เพียงแต่ว่าผมใช้เป็น”
ในช่วงที่ครอบครัวของฟลุค เกริกพล นั้นไปอยู่อเมริกา ฟลุคเล่าว่า ไปอยู่ 5 เดือน จ่ายไป 5-6 ล้าน คืออะไร ?
ฟลุค : ตอนไปอยู่อเมริกา เราตั้งใจจะไปอยู่แค่เดือนครึ่งก่อน พอติดโควิดปุ๊บก็ทำให้ไปหาคุณยายไม่ทัน อย่างแรกเราต้อง
เลื่อนไฟลต์ก่อน เลื่อนปั๊บมาก็ข้ามไปหลังปีใหม่พอสมควร ไม่งั้นมันไม่คุ้มที่เราจะเลื่อน ก็เลื่อนไปเกือบเดือน พอเลื่อนไป
ทีแรกที่เราตั้งใจว่าเราเช่ารถอย่างเดียว อยู่ที่วันละร้อยต้น ๆ แต่ว่าค่าประกันของรถมันจะมี เราไม่ได้คิดว่าจะทำประกันรายปี
เพราะเราคิดว่าอยู่หลักเดือน มันไม่คุ้ม เราก็เลยทำรายวันกับบริษัทรถ มันคิดอยู่ที่ 40% ของราคารถผมเลยโดนค่ารถเฉลี่ยอยู่ที่
ประมาณ 200 ต่อวัน อยู่มา 5 เดือนกว่าค่ารถอย่างเดียววันละ 7,000 ? ฟลุค : ถ้าเราไม่เช่ารถ เดินทางไปแค่ลงเขาเพื่อกินข้าว
ซื้อกลับมาประมาณจะ 100 เหรียญแล้ว คือถ้าเรารู้ว่าอยู่ 5 เดือน เราซื้อรถแน่นอน