ซุ่มอยู่กิน 7 ปีไม่ได้แต่ง ‘พีท ทองเจือ’
ปัจุุบัน ‘บี วัลวิภา’ ปลงชีวิตรัก ทิ้งชื่อนางเอกหันหน้าพึ่งธรรม
หากย้อนกลับไปช่วงยุค 90 เชื่อว่าหลายคงรู้จักเธอ สำหรับ บี วัลวิภา โยคะกุล ดาราและนางแบบชื่อดังในยุคอดีต แจ้งเกิดจากการแสดงละครเรื่องกับค่าย กันตนา เรื่อง กว่าจะสวมหมวกขาว หลังจากนั้นก็เริ่มมีงานในวงการบันเทิงมากขึ้น
ทั้งถ่ายแบบ มิวสิควิดีโอ งานแสดง และงานโฆษณา ผลงานที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดในชีวิตวงการบันเทิงของเธอคือการถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร Image ร่วมกับ ไมเคิล หว่อง
ทว่าหลังจากอยู่ในวงการบันเทิงไม่นาน คุณบีตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอเมริกา โดยได้ไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่นั่นหลายปี แต่ระหว่างนั้นก็ยังคงมีคิวงานโฆษณาที่ทำให้เธอต้องบินกลับมาอยู่บ้าง
หลังจากอาศัยอเมริกาประมาณ 5 ปี คุณบีตัดสินใจกลับมาพำนักอยู่ที่เมืองไทยอีกครั้ง และได้เริ่มมีผลงานในวงการบันเทิงอย่างงานแสดง
ผลงานการแสดงในฐานะนางเอกเรื่องสุดท้ายกับผลงานละครโทรทัศน์ช่อง 3 “บ้านเล็ก” แต่หลังจากนั้นเนื่องด้วยสาเหตุหรืออะไรบางอย่างในตัวของเธอคุณวรายุฑ มิลินทจินดาได้นำเธอพลิกบทบาท
ด้วยการมารับบทร้ายครั้งแรกในผลงานละครปี 2537 “ตุ๊กตาเริงระบำ” ร่วมกับนางเอกคุณหมิว ลลิตา และพระเอกคุณโจ จิรายุส หรือจะผลงานด้านพิธีกรกับผลงานพิธีกรรายการ “ช็อคเกม” รายการเกี่ยวกับข่าวสดและรายการต่าง ๆ อีกมาก
แต่ผลงานในวงการบันเทิงที่เป็นที่กระแสวิพากษ์วิจารณ์มนกที่สุดคือผลงานถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร ที่คุณบีได้สร้างเสียงฮือฮาหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่การขึ้นปกนิตยสาร image โดยที่ภาพนั้นคุณบีไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าช่วงบนเลยสักชิ้น
อีกทั้งนายแบบไมเคิล หว่องยังได้โอบกอดในบริเวณช่วงหน้าอกของเธอถึงเนื้อ ส่งผลให้นิตยสาร image ฉบับนี้ได้รับความนิยมอีกทั้งยังทำให้คุณบีเป็นที่พูดถึงในแง่ลบอย่างมากอีกด้วย
ด้านคความรักในตอนนั้น บี วัลวิภา เคยคบกับ พีท ทองเจือ แล้วย้ายไปอยู่อเมริกาด้วยกัน นานถึง 7 ปีอยู่ที่โน่นทั้งคู่มีความสุขมาก พอย้ายกลับเมืองไทยทั้งคู่ก็ได้เลิกรากันไป
จนทำให้หายจากวงการไปพักใหญ่ ซึ่งสาวบีก็ได้ออกมาเปิดใจว่า ตนช้ำรักทั้งหญิงทั้งชาย หันหน้าเข้าธรรมะ ส่วนหนุ่มพีทไม่นานก็แต่งงานกับ เจ็ง วิไลลักษณ์
“ตอนนี้ชีวิตทุกว้นนี้คือมีความสุขมาก ครอบครัวมันดีกว่าเมื่อตอนที่เราเป็นเด็ก มันกลายเป็นว่าเขาก็ภูมิใจในตัวเรา แล้วเราก็มีความรู้สึกว่า เราเองก็ไม่ซัคเซสในเรื่องของชีวิตคู่หรือความรัก
ก็ไม่ซัคเซสเลยทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็เลยมีความรู้สึกว่ามองย้อนกลับไป เออพ่อเรา ครอบครัวเรา พ่อแม่เรา เขาก็คงเหมือนเราตอนที่เราอายุ 30 20 เขาก็คงมีเหตุผลของเขา
เกิดความเข้าใจ อยู่ ๆ มันปิ๊งขึ้นมาเองเลย อะไรอย่างงี้ มันก็เกิดความเข้าใจ เพราะฉะนั้นทุกวันนี้ก็ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว ได้ดูแลคุณพ่อคุณแม่ได้อะไรอย่างงี้ ทุกอย่างเหมือนว่าเราก็เป็นหัวหน้าครอบครัว
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวันพ่อ วันแม่ วันอะไรอย่างนี้ เราก็เลยมีความรู้สึกว่าไม่จะอะไรก็แล้วแต่คือพ่อแม่ก็เป็นผู้ที่ให้กำเนิด ช่วงนั้นเด็กทุกคนมันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
มันยากที่จะเข้าใจ แต่พอเราโตขึ้น เราเป็นสาว เรามีชีวิตด้วยตัวเอง เรารู้แล้วว่าชีวิตคู่มันเป็นอย่างงี้ ๆ ๆ มันยากอย่างงี้ มันก็เลยทำให้เราเข้าใจพ่อกับแม่มากขึ้น”
@mild_moganjang ยังหล่อเหมือนเดิม#พีททองเจือ #รถซิ่งขึ้นตึก3 #ขึ้นฟีดเถอะ #อย่าปิดการมองเห็น