เทวดาช่วยด้วย ลุงวัย 80 สุดเหลือทนบ้านทรุด ร้องทุกข์ไปหลายที่ไม่คืบ หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ร้องทุกข์กับเทวดา ลุงวัย 80 กว่าบ้านเรือนแตกร้าวทรุดตัวลงไปทั่วทั้งผืนดิน หลังชุมชนขยายตัวทำเจ้าของโครงการเริ่มก่อสร้างอาคารพาณิชย์ขายเพิ่มอีก 30 คูหา
ทำคนอยู่มาแต่เก่าก่อนเดือดร้อน เผยเคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานภาครัฐมาแล้วหลายครั้ง แต่ถูกทางฝ่ายโครงการเบี้ยวการเจรจานัดหมายมาตลอดถึง 6 ครั้ง
สุดท้ายหมดหนทางทวงความยุติธรรม ต้องกลับมาขึ้นป้ายเขียนข้อความร้องทุกข์บอกต่อเทวดาฟ้าดินให้ช่วยเหลือสาปแช่งต่อผู้กระทำการให้เดือดร้อน วันที่ 20 มิ.ย.66
เวลา 14.30 น. นายวิเชียร อายุ 81 ปี อยู่บ้าน ม.6 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวเปิดเผยถึงความทุกข์ร้อนของตนเอง จนถึงขั้นต้องเขียน
ป้ายร้องทุกข์ติดเอาไว้ที่ผนังกำแพงของรั้วบ้าน เพื่อให้เทวดาฟ้าดินและผู้ที่ผ่านมาพบเห็นได้ทราบว่า บ้านเรือนของตนเองที่พักอาศัยอยู่นั้น “ถูกละเมิด ทำให้เสียทรัพย์”
จากโครงการหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังแห่งหนึ่งที่ตนเองได้เคยซื้อบ้านพร้อมที่ดินไว้เพื่ออยู่พักอาศัยยามแก่ชราภาพ เมื่อ 13 ปีก่อน แต่มาถึงวันนี้ความสงบสุขที่เคยมีกลับมา
ถูกทำลาย จากทางเจ้าของโครงการที่ได้มีโครงการก่อสร้างตึกเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 3 ชั้นรวม 30 คูหาขึ้นมา ในบริเวณพื้นที่แปลงติดกันจนส่งผลกระทบทำให้ได้รับความเดือดร้อน
บ้านเรือนแตกร้าวจากแรงสั่นสะเทือนระหว่างการตอกเสาเข็มจำนวน 225 ต้น เพื่อวางเป็นฐานรากของตึกที่ความลึกมากถึง 24 เมตร ถึงหลุมละ 3 ต้นต่อกันรวม 6 ท่อนในแต่ละหลุม
(ท่อนละ 12 ม.) และยังทำให้พื้นดินภายในบริเวณบ้านเกิดการเลื่อนสไลด์ จนไม้ผลที่ปลูกไว้ (มะม่วง) ตาย โดยนายวิเชียร ระบุว่าที่ผ่านมาได้เคยเดินทางเข้าไปร้องทุกข์ต่อทาง
หน่วยงานราชการมาหลายแห่งแล้ว ทั้งยุติธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรม จ.ฉะเชิงเทรา อบต.ท้องที่ รวมถึง ปปช.ฉะเชิงเทราด้วย แต่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมตามที่ต้องการหรือมี
ความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อทางหน่วยงานรัฐมีการนัดเพื่อให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ทางฝ่ายของเจ้าของโครงการได้มีการผลัดผ่อนหรือเลื่อนนัดมาตลอด รวมถึงไม่มาตามนัด
นับตั้งแต่เริ่มมีการลงมือก่อสร้างเมื่อช่วงเดือน พ.ค.65 จนถึงปัจจุบันรวม 6 ครั้งแล้ว จนทำให้ตนเองนั้นหมดหนทางที่จะต่อสู้เพื่อแสวงหาความยุติธรรมให้เกิดขึ้นจากความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้
อีกทั้งในการก่อสร้างยังก่อให้เกิดเสียงดังและมีฝุ่นละอองจำนวนมากปลิวลอยลงมาตามอากาศอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตนเองเสียสุขภาพ และมีอาการป่วยทรุดหนักมากยิ่งขึ้นจากโรคประจำตัวหลายด้าน
จึงได้เขียนป้ายเพื่อร้องทุกข์และสาปแช่งติดเอาไว้ เพื่อให้เทวดาฟ้าดินได้รับรู้ หรือมีใครเข้ามาพบเห็น และพอจะมีหนทางช่วยเหลือได้บ้าง เพื่อให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นกับตนบ้าง นายวิเชียร กล่าว