พระเอกพาหนี มีลูก 2 ให้ก่อนทิ้งไปแต่งนางเอก
เปิดชีวิต ‘สปัน เธียรประสิทธิ์’ อดีตเทวีสาวงามรักแรกของ ‘ชรินทร์ นันทนาคร’
เรียกได้ว่าเป็นหญิงแกร่งยุค 2500 เลยก็ว่าได้สำหรับ คุณยายสปัน เธียรประสิทธิ์ สาวสังคมไฮโซ ดีกรีนักเรียนอังกฤษ ที่ได้ชื่อว่ามีรูปโฉมงดงามและรสนิยมทางแฟชั่นที่เริศสะแมนแตนมากที่สุดในยุคนั้น
หญิงสาวผู้ที่ได้ชื่อว่าคือที่มาของเพลง ทาสเทวี ที่มีเนื้อร้องสุดตราตรึงว่า “บุญฉันมีแต่คงไม่ถึง ฟ้าจึงไม่เวทนา คอยเฝ้า แต่คอยทุกครา ดวงจันทรา ไม่ลอยเลื่อนมาใกล้เรา”
คือเนื้อเพลงที่ ชรินทร์ นันทนาคร ขับร้องเมื่อปี 2499 โดยแสดงความรู้สึกออกมาได้อย่างหมดจด ต่อมาภายหลังผู้คนต่างทราบความนัยว่า เทวีสาวงามที่ชรินทร์พร่ำเพ้อนั้นคือ สาวงามสูงส่งนาม
สปัน เธียรประสิทธิ์ ผู้ซึ่งสร้างตำนาน “วิวาห์เหาะ” กระฉ่อนทั่วไทยในยุคนั้น ดอกฟ้านามสปันเป็นหลานพระยา ธิดาเจ้าสัวในกรุงเทพฯและพ่อเลี้ยงใหญ่เชียงใหม่
ผู้มีบ้านพักร้อนที่หัวหินอีกครอบครัวเมื่อหัวหินฮิตในยุคโน้น เจ้าสัวคนนั้นมีหลักทรัพย์นับล้านๆ จึงสามารถส่งสปันไปเรียนการดีไซน์ที่อังกฤษ อีกทั้งยังมีทุนเดินทางไปดูงานเสื้อผ้าที่ฝรั่งเศสและอเมริกา
เพลงดังแต่เรื่องราวกลับดังยิ่งกว่า เมื่อทั้งคู่แอบหนีตามกันจากคฤหาสน์ของฝ่ายสาวจากเชียงใหม่ เพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ จนเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่พักใหญ่
ทั้งคู่อยู่กินด้วยกัน 3 ปี มีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน ก่อนที่ไม่นานทั้งคู่จะตัดสินใจแยกทางกัน โดย สปัน เธียรประสิทธิ์ เป็นฝ่ายนำบุตรสาวไปเลี้ยงดูด้วยตนเอง
ซึ่งต่อมามีทายาทรุ่นหลาน ที่รู้จักดีในปัจจุบันคือ แหวนแหวน (ปวริศา เพ็ญชาติ) และ หวาย กามิกาเซ่ (ปัญญริสา ชุมรุม)
หลังจากเลิกร้างกับชรินทร์ สปันได้ใช้ความรู้ความสามารถของเธอ ในการรับออกแบบ-ตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นที่นิยมในผู้คนแวดวงชั้นสูง ต่อมาเธอได้เปิดโรงเรียนสอนตัดเสื้อ มีลูกศิษย์เยอะมาก
เธอหาเงินเก่ง ทำงานดึกแต่อดออม ลูกสาวทั้งสองตอนไปเรียนที่นิวซีแลนด์และอเมริกา ก็หาเงินพิเศษด้วยการเป็นพนักงานเสิร์ฟ เพียง 10 ปีที่สปันตั้งตัวได้ แต่ยังประหยัดมาตลอด
เธอเก่งจนมีผลงานโชว์ในฮอลลี่วู๊ด มีผู้สัมภาษณ์เธอออกรายการทีวีในอเมริกาในฐานะดีไซเนอร์ ผู้ประสบความสำเร็จจากไทยและยังได้เดินทางทั่วโลก
