บ้านเกิด ‘ลูกนก สุภาพร’ อดีตนักร้องลูกทุ่งหลังลาวงการหันไปใช้ชีวิตพอเพียง

บ้านเกิด ‘ลูกนก สุภาพร’ อดีตนักร้องลูกทุ่งหลังลาวงการหันไปใช้ชีวิตพอเพียง

หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนคงไม่มีใครไม่รู้จักเพลง คุณลำไย ซึ่งโด่งดังเป็นพลุแตก ทำให้ชื่อของ ลูกนก สุภาพร ก็กลายเป็นที่รู้จักด้วยเช่นกัน แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ทำเอาเจ้าตัวเหนื่อยไม่ใช่เล่นๆ ทำมาหลายอย่างทั้งเคยเป็นคนรับใช้ เป็นสาวเย็บผ้า ล่าสุด ลูกนก สุภาพร ได้ควงแขนครอบครัว ทั้งคนสามีและลูกสาวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร

ตอนที่เพลงคุณลำไยออก แล้วมันดังเปรี้ยงทั่วประเทศ ตอนนั้นคือดังขนาดไหน? ลูกนก : มันชั่วข้ามคืน คือมันพลิก จังหวะที่เราทำ แต่การทำงานของเราเหนื่อยมากกว่าที่จะมาได้ เราทำกันมาแสนสาหัส ไม่มีจะกิน ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่นอน ถึงขนาดพรุ่งนี้จะกินข้าวอะไร ค่าเช่าบ้านก็ไม่มี เขาจะตัดน้ำ ตัดไฟละกว่าเราจะให้คนได้เห็นว่าเป็นคุณลำไยเนี่ยต้องบอกว่าแสนสาหัส ต้องนอนให้น้ำเกลือ นกต้องนอนอยู่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ด้วยความที่นกท้องเสีย นกหลับไปประมาณ 3 ชม. พอฟื้นก็ต้องขับรถเข้ากรุงเทพฯ สายน้ำเกลือก็ยังอยู่เลย

พี่โด่งรู้จักกับพี่นกได้ยัง? พี่โด่ง : มีผู้ใหญ่แนะนำ ผู้ใหญ่ที่นกเคารพ คือจับมาชนกัน เพี่นกเคยเป็นคนรับใช้? ลูกนก : โห…เป็นคนรับใช้นี่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตคือ นกออกจากโรงเรียน ตอน ป.6 แล้วทำไร่ ทำนา แล้วกำลังเข้าบ้าน ป้าไปหาที่บ้านนอก คือนกไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาแต่มีเด็กที่บ้านบอกว่าหางานให้หน่อย แล้วเด็กคนที่บอกไม่มา ทีนี่นกเป็นหลาน คือถ้าไม่ได้เด็กมานี่ป้าเสียหน้าแน่ ทำไงอ่านก นกไม่อยากไป อยากอยู่บ้าน ป้าบอกมาเถอะช่วยหน่อย แล้วเรากลายมาเป็นคนใช้ในกรุงเทพฯ เกือบปี เพราะว่าทำงานบ้านตึก 4 ห้อง 4 ชั้น พอมาอยู่มันเป็นจังหวะจุดเปลี่ยน แม่โทร.มาว่า ลอยกระทงกลับบ้านไหม แล้วทีนี้เจ้านายผู้ชายรับ แล้วเมียเขาถามว่าโทรศัพท์ใคร เขาก็บอกอ่อ…โทรศัพท์คนใช้ เขาพูดอย่างนี้แล้วเรายืนอยู่ข้างหลัง แล้วเรารู้สึกว่าฉันไม่ได้มาเป็นคนใช้ ฉันไม่ได้มาเป็นอะไรอย่างนี้ ทำไมต้องพูดกับฉันอย่างนี้ เสียใจ แม่ถามบอกว่าลูกกลับบ้านไหมลอยกระทง หนูบอกไม่ หนูไม่กลับ คือจุดเปลี่ยนคำว่าคนใช้ ก็คือนึกเลย คือ 1.เขาดูถูกเรา ทำไมเขาว่าเราอย่างนี้ แล้ว 2.พ่อ แม่ ทำไร่ ทำนา มาตลอดชีวิต ก็ไม่เห็นมีรถเก๋งขี่กับเขาเลย เพราะฉะนั้นฉันถ้าฉันไม่มีรถ ฉันจะไม่กลับบ้าน ก็ลาออกจากการเป็นคนใช้ พอ 2-3 วัน นกก็ไปสมัครที่เขารับเย็บผ้าแล้วอยู่ที่โรงงานด้วย นกไปสมัครแล้วไปอยู่กับเขา ทำอย่างนี้มา 5-6 ปี แล้วมาร้องเพลงจากตรงนั้นมาร้องเพลงได้ยังไง?

ลูกนก : จังหวะนั้นไปอาศัยเขาอยู่ แล้วเขาบอกว่าเขาไปร้องเพลงในคาเฟ่ แล้วเขาบอกว่าวันนั้นเขาได้พวงมาลัยมา 2 พัน นึกในใจ ฉันร้องเพลงเป็น ฉันอยากร้อง ก็เลยแอบไปกับเขา เราก็ไปดูเขาทำยังไง หลังจากนั้นไปฝึกได้วันเดียว นกเข้าคาเฟ่ แล้วจังหวะที่เข้าคาเฟ่เราไม่รู้เลยว่าสังคมกลางคืนมันเป็นยังไง พอไปถึงปุ๊บ เจอแขก นักร้องใหม่ใช่ไหม ไข่แตกหรือยัง คือภาษาของเขาก็คือได้พวงมาลัย ได้เงินหรือยัง เราบอกไม่ค่ะ เขาบอกว่าถ้าอยากไข่แตกให้เขาจูบปาก 1 ที เราก็ร้องไห้กลับบ้าน คือเราไม่รู้ว่าเขาเป็นกันอย่างนี้หรอ เรารู้แต่เขาได้ตังค์เราก็อยากได้บ้าง แล้วหลังจากนั้นกลับไปไหม? ลูกนก : อาทิตย์นึงกลับไปร้อง พอไปทำงานตรงนั้นไม่มีใครบังคับเรา เราก็นั่งอยู่เฉยๆ เหมือนเขาถูกใจเขาก็ให้พวงมาลัย แล้วทีนี้โดนเจ้านายเย็บผ้าว่า คอยดูนะนกมันไปร้องเพลงเดี๋ยวมันต้องใจแตก คำนี้ก็คือจุดเปลี่ยน ลาออกจากงานเย็บผ้า ฉันจะไปร้องเพลงอย่างเดียว อยู่ตรงนี้นกโชคดีอย่างไม่มีใครเป็นเจ้านาย เราเป็นเจ้านายตัวเอง อันไหนไม่ทำเราก็ไม่ต้องทำ แต่ในยุคนั้นมันจะไม่มีการที่จะมีแขกมาลวนลามหรือชวนไปนอน ของนกไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะมีคนมาฟังเพลงมากกว่า

เส้นทางความรักกับพี่โด่งเป็นไงบ้าง? พี่โด่ง : จังหวะที่นกไปเดินแจกแผ่นที่ระยอง ตอนนั้นผมอยู่ศูนย์ข่าวที่ระยองแล้วเขาไปแจกแผ่นที่สถานีดังของระยองผมสนิทกับเจ้าของสถานี ก็ไปนั่งคุยกันตลอด ก็ไปเห็นเขา เขามาแบบชุดขาวจะไปชวนเมียเจ้าของสถานีไปถือศีล เขาก็แนะนำให้รู้จัก ผมมอง ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกนก มาแบบไม่แต่งหน้าใส่ชุดขาว ผมก็รับไหว้ไปแบบนั้น ตอนขากลับเขาก็มาอีก ห่างจากนั้นปีนึงเขาก็มาจุดเดิมอีก ซึ่งมาเจอผมที่เดิมอีก ผมก็สวัสดีเขาก็ไป จนผู้ใหญ่คิดว่ามันบังเอิญทำไมต้องมาเจอกันที่นี่ ซึ่งผมก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นตลอด ไปๆ มาๆ กรุงเทพฯ-ระยอง จังหวะเขามาเราจะต้องมาพอดี เขาก็สงสัยมันเป็นเนื้อคู่กัน งั้นนัดกินข้าว ก็ไม่กล้าคุย เพราะว่าตอนนั้นเขาก็ดังกลัวเขาไม่คุยด้วย ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรเพราะเขาไม่ใช่สเปค เขาให้คุยก็คุย ไม่ได้คิดอะไร ถ้าแยกย้ายกันไปก็จบ พี่สาวที่เขานับถือ บอกว่ายืมโทรศัพท์หน่อยแล้วเขาก็กดเบอร์โทรศัพท์นกเข้าเครื่องเขา ลูกนก : หลังจากนั้นก็เป็นจุดเปลี่ยน เขาก็จะโทร.มาคุยทุกวันตอนเย็น แล้วเรามองว่าผู้ชายคนนี้น่าจะมีครอบครัวแล้ว แก่ซะขนาดนี้ ช่วงนั้นนกพูดจริงๆ ว่านกจะไม่มีครอบครัว จะไม่มีแฟน ไม่มีลูก ขอหยุดเชื่อความจนไว้ที่นกจะไม่ให้สืบพันธุ์อีกต่อไป

MWyndQ.md.jpeg
MWyunV.md.jpeg
MWyrZS.md.jpeg
MWy8Pn.jpeg
MWyHmg.md.jpeg
MWyX9W.md.jpeg
MWyab2.md.jpeg
MWypp1.md.jpeg
MWyG4y.md.jpeg
MWyJQD.md.jpeg
MWyLr9.md.jpeg
MWymdJ.md.jpeg
MWyyZb.md.jpeg
MWyFsf.md.jpeg
MWyIma.md.jpeg
MWFW9q.md.jpeg
MWFdjz.md.jpeg
MWF0p8.md.jpeg
MWFSNR.md.jpeg
MWFYU0.md.jpeg
MWFzru.md.jpeg
MWFN0Z.md.jpeg
MWFBZI.md.jpeg
MWFfsP.md.jpeg

About Areeya Truststore Columnist

View all posts by Areeya Truststore Columnist →

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *