คนไทยมีหวังอีกครั้ง!
เปิดช่องโอกาส ‘ทิม พิธา’ ยังมีสิทธิได้โหวตนายกรอบที่ 2
ณัฐวุฒิ ยืนยันกลางสภา สถานะ ‘พิธา’ ยังครบถ้วน บอกเสนอชื่อโหวตนายกฯ อีกได้ แย้มมีช่องทางตามข้อบังคับข้อ 41 ให้ประธานรัฐสภาพิจารณาเมื่อมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 20 ก.ค.2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
ก่อนเข้าสู่วาระ ประธาน แจ้งต่อที่ประชุมเรื่องที่ไม่ปรากฎในระเบียบที่แจ้งไว้ล่วงหน้า กรณีรับทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล
หยุดปฏิบัติหน้าที่สส. ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ทำให้ขณะนี้มีสส.ทั้งหมด 499 คน
จากนั้นนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้แจงกรณีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่สส.ว่า นายพิธาได้รับทราบหนังสือคำสั่งดังกล่าว
และได้พูดในสภาแห่งนี้ชัดเจนว่าไม่ได้หมายถึงเรื่องของการยอมรับ แต่เป็นการรับทราบ และปฏิบัติตามคำสั่งอย่างสง่างามด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่ และเดินออกจากห้องประชุมนี้อย่างสง่างาม
ทั้งนี้ หากพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ที่ให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ มีเงื่อนไขที่เพิ่มเติมอยู่ในตอนท้ายที่ระบุว่า กรณีที่มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
แต่ไม่กระทบกับกิจการที่ผู้นั้นได้กระทำไปก่อนพ้นจากตำแหน่ง จึงยืนยันได้ว่า ขณะนี้นายพิธาถูกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น ยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยว่านายพิธา เป็นผู้กระทำผิด
มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งในทางกฎหมายยังมองว่านายพิธา เป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรยังไม่มีใครทราบได้
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 159 และมาตรา 272 มาจากคำถามพ่วงที่ให้การเลือกนายกรัฐมนตรี วาระเริ่มแรก 5 ปี
ต้องเอาเข้าที่ประชุมรัฐสภา และพิจารณาคุณสมบัติลักษณะของนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น แม้จะมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สถานะของนายพิธา ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯที่พรรคก้าวไกลเสนอ ยังมีสถานะครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ
ยังมีโอกาสที่เพื่อนสมาชิกจะเข้าชื่อเสนอนายพิธาต่อสู้ต่อในฐานะแคนดิเดตนายกฯ และยังลงมติให้ความเห็นชอบนายพิธาได้
อย่างไรก็ตาม กรณีให้ความเห็นชอบการเสนอชื่อต่างๆคงเร็วไปที่จะบอกว่ายังมีการยืนยันเหล่านั้นหรือไม่ เนื่องจากข้อบังคับการประชุมข้อ 41 วรรคท้าย ระบุว่าประธานฯ อาจพิจารณาต่อได้หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป