‘เศรษฐา’ ชี้ ต้องไม่มีแก้ 112 ไม่งั้น สว.ไม่หนุน โยน กก.บห.ส่งชื่อชิงนายกฯ
วันที่ 20 ก.ค. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรค
ว่า วันนี้เข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อเข้ามาหารือกับกรรมการบริหารพรรคถึงความชัดเจนว่า จะส่งชื่อแคนดิเดตคนไหนไปเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา ส่วนจะเป็นชื่อ
นายเศรษฐา ทวีสิน หรือไม่ ยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค และตนเองพร้อมทำตามมติ ส่วนประเด็นที่ สว.ส่วนใหญ่ยืนกราน
ไม่สนับสนุนพรรคก้าวไกล และการแก้ไขมาตรา 112 จะเป็นอุปสรรคต่อการโหวตของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ และการจัดตั้งรัฐบาลจะยังคงมีพรรคก้าวไกลอยู่หรือไม่
นายเศรษฐา ตอบว่า ต้องให้ทีมเจรจาของแต่ละพรรคไปหารือกันก่อน เพราะเรายังยึดโยงกับ 8 พรรค ที่มีเจตนารมณ์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าความสัมพันธ์ยังคงเหนียวแน่น
ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยที่มี 3 คน จะต้องให้กรรมการบริหารประชุมและลงมติว่า จะเสนอใครเป็นนายกฯ ในครั้งหน้า แต่ยอมรับว่า จากการติดตามข่าวสาร
ทราบว่าส่วนใหญ่สนับสนุนตน ขณะเดียวกันก็ยังมีชื่อแคนดิเดตนายกฯ อีกหลายพรรครอเสนออยู่ เชื่อว่าทุกคนมีความพร้อม ผู้สื่อข่าวถามว่า จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ 8 พรรคร่วมฯ
ได้ผลักดันให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จนถึงที่สุดแล้วหรือไม่ นายเศรษฐา มองว่า ตามที่ฟังด้านกฎหมายก็น่าจะเป็นอย่างนั้น และหากมีพรรคก้าวไกลอยู่ในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย จะมีผลต่อการโหวตชื่อ
นายเศรษฐา หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การโหวตครั้งเดียวถือเป็นบรรทัดฐาน และการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปก็ต้องคิดให้ดี ต้องเจรจาให้เหมาะสม แต่ส่วนตัวยอมรับว่าการโหวต
นายพิธา 2 ครั้งในสภา การแก้มาตรา 112 ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ และหากครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสตั้งรัฐบาล และมีสิทธิเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ เข้าไปโหวต จะเป็นที่ชัดเจนว่า
พรรคที่จะเสนอนายกฯ ครั้งต่อไป ต้องไม่มีเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ไม่งั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก สว. และจากหลายๆ พรรค เพราะคณิตศาสตร์ค่อนข้างจะพลิกผันเป็นอย่างมาก นับดูก็รู้
“ถ้าเกิดมีพรรคที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป เรื่อง 112 ต้องไม่อยู่ในการแก้ไขหรือยกเลิก อันนี้ชัดเจน ไม่งั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากทั้ง สว. และอีกหลายพรรคการเมือง
คณิตศาสตร์มันค่อนข้างจะพลิกผันมากๆ เลย นับดูก็รู้ว่าเรื่องอะไร” นายเศรษฐา กล่าว ส่วนจะมีวิธีไหนที่จะทำให้มาตรา 112 อยู่ในเงื่อนไขที่ทำคนภายนอกเข้าใจว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้
หักพรรคก้าวไกลมากที่สุด เรื่องนี้ตนเองคงพูดแทนพรรคก้าวไกลไม่ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยต้องคุยกันภายใน หากจะเป็นแกนนำเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ต้องมีความชัดเจนที่น่าจะต้องหยุดลงไป
ส่วนพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยจะต้องถกกันหนักในเรื่องนี้หรือไม่ นายเศรษฐา บอกว่าไม่ทราบ แต่ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีมาตรา 112 อยู่ คงไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลายพรรคที่เกี่ยวข้องด้วย