รวยมหาศาลไม่เคยถือตัว
ส่องธุรกิจ ‘แจ็คสัน หวัง’ ทั้งหล่อทั้งรวยขึ้นแท่นเศรษฐีอายุน้อยพันล้าน
หล่อเก่ง แถมมากไปด้วยความสามารถหลากหลาย สำหรับ แจ็คสัน หวัง ที่ตอนนี้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปไกลถึงระดับโลกแล้ว
ซึ่งมีรายงานข่าวว่าหนุ่มคนนี้เป็นผู้มีรายได้สูงที่สุดในบรรดาสมาชิกวง GOT7 เลยทีเดียว อีกทั้งเขาต่อยอดความมั่งคั่งด้วยการเดินหน้า
ทำธุรกิจค่ายเพลงของตัวเองอย่าง “Team Wang” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศจีน และยังลงทุนในธุรกิจด้านแฟชั่นอีกด้วย
สำหรับรายได้ของ แจ็คสัน มีรายงานข่าวจากสื่อนอกหลายสำนัก (ปี 2021-2022) ระบุว่าอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือราวๆ 289.8 ล้านบาท โดยที่มาของรายได้มาจากการทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยว และการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลกหลายแบรนด์
ในปี 2017 แจ็คสัน หวัง ได้ก่อตั้งค่ายเพลงสากลชื่อ Team Wang ขึ้นมาและได้เปิดตัวเพลง Papillon เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกในปีเดียวกัน
ซึ่งสร้างอิมแพ็คได้อย่างน่าทึ่งในประเทศจีนและในระดับสากล อีกทั้งผลงานเพลงของเขายังเคยติดอันดับ Billboard Emerging Artists ในปี 2019 อีกด้วย
ในปี 2020 แจ็คสัน ได้เปิดตัวคอลเลกชั่นแฟชั่นเป็นของตัวเอง ภายใต้ชื่อว่า Cookies – The Original ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกสินค้า Team Wang Design
ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้านักออกแบบและครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ โดยได้ร่วมมือกับแบรนด์ชื่อดังต่างๆ เช่น Fendi, Ray-Ban, Super X และ Monèt
ต่อมาในช่วงต้นปี 2021 แจ็คสัน หมดสัญญากับต้นสังกัด JYP Entertainment และหลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือนในปีเดียวกันก็มีรายงานข่าวว่า ค่ายเพลง TEAM WANG ของเขา
ได้ทำข้อตกลงทางธุรกิจกับค่าย Sublime Artist Agency ของเกาหลีใต้ เพื่อทำธุรกิจด้านอุตสาหกรรมเพลง การผลิตและการจัดการศิลปินต่างๆ ร่วมกันทั้งในจีน เกาหลีใต้ และในระดับสากล
อีกทั้งเจ้าตัวยังโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า เขาจะยังคงทำงานโซโล่ในฐานะศิลปินเดี่ยวต่อไป ส่วนค่าย TEAM WANG ก็จะทำงานเพลงในสาขาที่มีความแตกต่างออกไป
โดยจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อสร้างผลงานที่พิเศษไม่เหมือนใครออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกัน นอกจากนี้ นักร้องดังยังสนใจการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย โดยในปี 2019
มีรายงานว่าเขาซื้อห้องชุดพักอาศัยสุดหรูในอาคาร The Cullinan ในย่าน Union Square ของฮ่องกง เกาลูน (บ้านเกิด) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านอสังหาริมทรัพย์
ที่แพงที่สุดในเมือง ด้วยมูลค่าสูงถึง 38.8 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 175 ล้านบาท