ชูวิทย์ ยื่นฟ้อง เศรษฐา และทนาย ความผิดฐานฟ้องเท็จ หมิ่นประมาท
นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และนายวิญญัติ
ชาติมนตรี ทนายความ ในความผิดฐานฟ้องเท็จ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยเรียกค่าเสียหาย จำนวน 90,000 บาท ต่อมา นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางเข้า
ยื่นเรื่องร้องสอบมรรยาททนายความ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ต่อสภาทนายความด้วย ซึ่งอาจมีโทษถึงขั้นถอดจาก
การเป็นทนายความพร้อมเผย ในวันพรุ่งนี้ตนจะไปยื่นเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์ ให้สอบสวนว่านายเศรษฐา ทำธุรกรรม
ซื้อขายโอนจ่ายเช็ค ถูกต้องหรือไม่ และในเวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่น
เรื่องทั้งหมดให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สอบสวนกรณีการตั้งนอมินีทำการซื้อขาย /
ศาลอาญา / 16 สิงหาคม 2566 ก่อนขึ้นไปยื่นฟ้อง นาย ชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวานที่ตนเองแถลงข่าว
แฉการนิติกรรมอำพรางของแสนสิริ ตนเองได้ขุดหลุมพรางเอาไว้ เพื่อให้แสนสิริ ออกมาตอบโต้ ซึ่งก็เป็นไปตาม
ที่ตนเองวางแผนไว้ นั่นคือแสนสิริ ชี้แจงเพียงแค่ว่า การซื้อขายที่ดิน ในซอยทองหล่อ 12 มีความโปร่งใส
แต่แสนสิริ ไม่ได้บอกถึงวิธีการซื้อขายที่ชัดเจน รวมไปถึงวิธีการตั้งนอมินีขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่า แสนสิริ คงไม่มี
ทางเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ส่วนที่ตนเองมาในวันนี้ เพราะต้องการฟ้องก ลั บ น า ย เ ศ ร ษ ฐ า ทวีสิน 3 ข้อหา คือ
หมิ่นประมาท ฟ้องเท็จ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ต น เ อ ง เ รี ย ก ค่ า เ สี ย ห า ย 90,000 บาท นับ ตั้งแต่วันที่
นายวิญญัติทนายความ เดินทางมาฟ้องตนเองเมื่อช่ว ง สั ป ดาห์ที่แล้ว ตนเองไม่ได้ต้องการฟ้องเพื่อทรัพย์สินเงินทอง
แต่ต้องฟ้องเพื่อความจริง ซึ่งประชาชนควรมีสิทธิ์ได้รับรู้ ว่า บ ริษั ท แ ส น สิ ริ ภ า ย ใ ต้ก า ร บริหารของนายเศรษฐา
ว่าที่นายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ รูปแบบหนึ่ง จากนั้น น า ย ชู วิ ท ย์ ได้กล่าวไปถึงการทำ
นิติกรรมอำพราง การซื้อขายที่ดิน ที่ปากซอยทองหล่อ 12 ว่า บริษัทแสนสิริได้ตั้งบริษัทนอมินีขึ้นมาบริษัทหนึ่ง
ไปเอา รปภ.กับแม่บ้านมาเป็นกรรมการบริษัท เพื่อที่จะนำบริษัทดังกล่าวไปซื้อหุ้นบริษัทอีกบริษัทหนึ่ง จากนั้นค่อย
ไปซื้อที่ดินผืนดังกล่าว มีการซื้อที่ดินในราคาสูงกว่าความเป็นจริงถึง 1,000 ล้านบาทเพื่อเอาเงินทอน และ
วิธีการทำธุรกรรมยังผิดแปลกซึ่งตามปกติ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จะต้องทำสัญญาซื้อขายก่อน แล้วค่อย
ทำสัญญาจำนอง แต่บริษัทแสนสิริกับทำสัญญาจำนองโฉนดไว้ล่วงหน้า ส่วนที่ดินผืนดังกล่าวเจ้าของปัจจุบัน
เป็นนายแพทย์อยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ส่วนรปภ.กับแม่บ้าน เ ป็ น ก ร รม ก า ร บ ริ ษั ท เ ป็ น น อ มิ นี ก็ไปแจ้งความเพื่อยืนยันว่า
ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องให้เจ้าตัวออกมาชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร อยากบอกทั้งสองคนว่า ถ้าไม่อยาก
มีส่วนเกี่ยวข้องก็มาให้การในฐานะพยาน หรือ ถ้าอยากปกปิด ก็แล้วแต่ ส่วนตนเองเชื่อว่า ทั้งรปภ.และแม่บ้าน
คงจะได้ค่าจ้างจากการเป็นนอมินีไม่เท่าไร พร้อมยืนยันจากนี้ ขอแลกกันหมัดต่อหมัดสู้กันในชั้นศาลตนเองมีหลักฐานครบ
นายชู วิ ท ย์ บอกว่า พรุ่งนี้ 10 โมง จะนำหลักฐานไปร้องเรียนต่อ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เพื่อ
ตรวจสอบและใช้อำนาจตามกฎหมายเรียกนอมินีของนายเศรษฐา มาสอบสวน ซึ่งถ้าหากพบว่าผิดจริง อาจรุนแรงถึงถูกยึดทรัพย์
โดยตนเองได้เตรียมแจ้งข้อหาหลายข้อหาต่อนายเศรษฐาทั้งฉ้อโกงประชาชน และข้อหาอื่นๆ เรียกได้ว่า บริษัทแสนสิริ
ภายใต้การบริหารของนายเศรษฐามีพฤติกรรมเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจส่วนที่นายเศรษฐา ชี้แจงว่า ทำธุรกิจอสังหาฯ
มากว่า 30 ปี นา ย ชู วิ ท ย์ บอกว่า ถ้าหน่วยงานภาครัฐเข้าไปตรวจสอบบริษัทแสนสิริ จริง จะพบกับความจริงหลายอย่าง
ตนเองในฐานะประชาชน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีปัญหาส่วนตัว แต่ทำในฐานะประชาชน พรรคเพื่อไทยจะต่อว่าตนเองอะไรก็ตาม ตนเองทำในนามสิทธิของประชาชน
ข่าวกระแส ข่าวทั่วไป ลูกดาราขวัญใจคนไทย ดาราซัมเมอร์