จตุพร เผยชะตากรรม ทักษิณ-เศรษฐา จากนี้ไปเตรียมเจอมรสุมการเมือง
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 28 ส.ค.66 นาย จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทย
ต้องมาก่อน ตอน “แทรก?” โดยเชื่อว่า เสียงคัดค้านขอพระราชทานอภัยโทษจะโถมแทรกเข้าใส่ทักษิณ ชินวัตร
มากขึ้น ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน เริ่มทำหน้าที่นายกฯ สมบูรณ์ การยื่นตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้ามด้านจริยธรรม
ทางการเมืองจะกระหน่ำในหลากหลายช่องทาง ดังนั้น กันยายนจึงเป็นเดือนระทึกทางอำนาจของพรรคตระบัดสัตย์ต่อประชาชน
นาย จตุพร กล่าวว่า ตำแหน่ง รมต.กลาโหม หากไม่ได้คนมากบารมีมาเป็นแล้ว จะไม่มีความหมายใดเลย เพราะ
ไม่มีใครเกรงใจในการแต่งตั้งโยกย้ายทหารระดับสูง เนื่องจากกฎหมายให้อำนาจข้าราชการทหารมากกว่าฝ่ายการเมือง
โดยมติ 7 เสือทหารประกอบด้วย รมต. รมช. ปลัดกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และอีก 3 ผู้บัญชาการเหล่าทัพ
แม้ฝ่ายการเมืองมีปลัดกลาโหมเป็นพวกก็ตาม แต่จำนวนเสียงจะน้อยกว่าฝ่ายข้าราชการทหาร ดังนั้น ฝ่ายการเมืองจึง
ไปแทรกการแต่งตั้งโยกย้ายทหารไม่ได้เลย รวมทั้ง กล่าวว่า เมื่อมีข่าวนายสุทิน คลังแสง พรรคเพื่อไทย จะเป็น รมว.กลาโหม
เท่ากับไปนั่งตบยุงเล่นเท่านั้น อีกอย่างรัฐบาลนี้เกิดจากผู้ทำรัฐประหารพรรคเพื่อไทยปี 57 แล้วยังจับมือพรรคการเมือง
และยังอาศัย สว. เครือข่ายอำนาจของทหารตั้งรัฐบาล ดังนั้น ข่าวใครจะมาเป็น รมว.กลาโหม จึงไม่มีความหมายใดๆ เลย
และกลายเป็นเรื่องเล็กไป ส่วนประชาชนเริ่มออกมาคัดค้านการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณ นั้น นาย จตุพร
กล่าวว่า กรณีนักการเมืองทุจริตจะขอพระราชทานอภัยโทษจะเขียนฎีกาอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีข้าราชการผู้ใหญ่บางคน
ขอพระราชทานฯ ในกรณีเดียวกันก็ไม่เคยได้ อีกอย่างรัฐบาลจะให้เหตุผลประกอบพระราชวินิจฉัยอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
นายจตุ พร กล่าวถึงการควบคุมตัวทักษิณ ทั้งในเรือนจำพิเศษ และย้ายมาที่ รพ.ตำรวจ ว่า สถานที่ทั้งสองแห่งนี้มีกล้องวงจรปิด
เฝ้าดูการเคลื่อนไหวนักโทษอย่างละเอียดยิบ หากมีภาพหลุดออกมาแล้วจะกลายเป็นชนวนใหญ่ ถึงขั้นทำให้รัฐบาลพังกันได้เลย
เพราะเคยมีกรณีการพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยมาให้เห็นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายปี 56 จนทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์
ชินวัตร พังยับเยินด้วยการยึดอำนาจเมื่อ พ.ค. 57 “สิ่งสำคัญที่สุดคำว่าอภิสิทธิ์ชนจะเป็นเรื่องใหญ่มากระแทกจิตใจผู้คน ถ้าทักษิณ
เจ็บไข้ได้ป่วยจริงไม่มีปัญหาเลย และไม่มีคนไทยใจดำคัดค้านการรักษา แต่ต้องเป็นความจริง และถ้าคนได้เห็นความจริงและ
อาการของโรคทั้ง 4 โรค ถูกอธิบายมาแต่ต้นแล้ว คนก็จะรู้สึกว่าเป็นความจริง” นาย จตุพ ร กล่าวว่า เมื่อทุกอย่างผิดปกติ
จึงทำให้ประชาชนไม่เชื่อ ไม่ใช่เรื่องใครชอบใครแล้วมาอธิบายเข้าข้างกัน แต่เป็นเพราะถ้าป่วยจริงคนที่ไม่ชอบ ก็ไม่มีใคร
ไปต่อว่าได้ เพียงให้ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เนื่องจากเจ็บป่วยก็มีสิทธิรักษากันได้ นายจตุ พร กล่าวว่า เมื่อทักษิณ
ได้ติดคุกจริงแล้ว นักโทษย่อมรู้จักมากมาย จะเข้ามาพูดคุยด้วย แต่กลางคืนจะอยู่คนเดียว ความเครียดจะเกิดขึ้น คอยเป็น
เป็นเพื่อนนอนไม่หลับ แล้วนานวันเข้าจะลุกลามเป็นอาการป่วยจริงขึ้นมา และโอกาสจะส่งตัวมา รพ.ตำรวจ จะยากยิ่งขึ้น
รวมทั้ง กล่าวว่า ในเรื่องปกตินั้นการขอพระราชทานอภัยโทษ ต้องมีการติดคุกจำนวน 1 ใน 3 ของโทษก่อน ในคดีแรก
ของทักษิณ มีโทษจำคุก 3 ปี ดังนั้นจึงต้องติดคุก 1 ปีก่อนจึงจะได้สิทธิพระราชทานอภัยโทษได้ ดังนั้น เมื่อเข้าคุก
เมื่อ 22 ส.ค. 66 จะมีการพระราชทานอภัยโทษก่อน 22 ส.ค. 67 ไม่ได้เลย “ทุกเรื่องราวการกลับไทยของทักษิณ
ดูเหมือนจะง่าย แต่ทุกเรื่องราวไม่มีการง่ายเลย และคนไม่มีอะไรจะชนะได้ทุกอย่าง เพราะการแลกทุกเรื่องราวนั้น ไม่มี
อะไรจะราบรื่น ได้ความสำเร็จครบถ้วนเสมอไป ถ้าเอาภาพตั้งแต่อยู่เรือนจำ เวลา แล้วมาถึง รพ.ตำรวจ คนจะออกมา
เต็มถนน แล้วเป็นชนวนให้เกิดการยึดอำนาจได้อย่างง่ายดายแล้ว” พร้อมกล่าวว่า เมื่อทักษิณ ตัดสินใจกลับไทยแล้ว
ดูเหมือนจะคิดเพียงว่า ทุกอย่างโล่งสบาย ติดคุกคืนเดียวก็ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษก็ได้ แต่สิ่งเหล่านี้จะกลาย
เป็นชนวนให้เอาคืน โดยทันที่นายเศรษฐา แถลงนโยบายเสร็จจะถูกยื่นตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้ามด้านจริยธรรมทางการเมือง
ในหลากหลายทาง ทั้งยื่นต่อ ปปช. ศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาล รธน. จึงน่าจับตาคุณสมบัติ
ต้องห้ามด้านจริยธรรมทางการเมืองอย่างยิ่ง นายจตุ พร กล่าวว่า เมื่อคุณสมบัติต้องห้ามถูกตรวจสอบแล้ว ปฏิบัติการสมน้ำหน้า
จะออกมาผสมโรงทันที่ เพราะอารมณ์ไม่พอใจกับการถูกตระบัดสัตย์จะโถมเข้าใส่ซ้ำอีก ดังนั้น ในเดือนกันยายนจึงเป็นห้วง
เวลาระทึกที่สังคมหลากหลายจะรุมถล่มนายเศรษฐา ที่ต้องเจอแรงกดดันทั่วสารทิศกระหน่ำกดดัน “ช่วงนี้ปฏิบัติการฟ้าใสเพิ่ง
เริ่มทำงานเท่านั้น มีการคัดค้านการอภัยโทษจึงไม่เกินความคาดหมายใดๆ เลย แล้วยังมีอีกหลายเรื่องราวอีก เมื่อนายเศรษฐา
เป็นนายกฯ และเริ่มปฏิบัติหน้าที่สมบูรณ์ ทุกอย่างที่เป็นกลเกมที่วางไว้จะเดินหน้าถล่มอย่างรวดเร็วมาก” อีกทั้งย้ำว่า ขอเตือน
ขบวนการปิดสัญญาณรายการประเทศไทยมาก่อน หากยังไม่หยุด พวกตนจะยกไปจัดหน้าทำเนียบรัฐบาล คุยกับสื่อมวลชนทุกวัน
ดังนั้น ขอบอกไว้ก่อน เพราะเราพร้อมทำได้ทุกวัน ดูสิใครจะทรุดไปก่อนกัน
ข่าวกระแส ข่าวทั่วไป ลูกดาราขวัญใจคนไทย ดาราซัมเมอร์