ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
คลื่นถล่มบ้านพัง 5 หลัง จ่อซัดซ้ำอีก 8 ผวานอนไม่หลับ วอนรัฐช่วยด่วน
ตรัง ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก คลื่นทะเลรุนแรงซัดบ้านริมชายหาดเสียหายยับ 5 หลัง จ่อถล่มอีก 8 ทำผวานอนไม่หลับ วอน ผู้ว่าฯ หน่วยงานราชการเร่งหาทางแก้ไขปัญหาจริงจังโดยด่วน
5 ก.ย. 66 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวัฒน์ ทะเลลึก หรือผู้ใหญ่คาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านมดตะนอย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อม เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านมดตะนอย เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาคลื่นทะเลที่มีความรุนแรง
โดยคลื่นซัดบ้านเรือนประชาชน ที่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ริมชายหาดมดตะนอย พังเสียหายไปแล้ว 5 หลังคาเรือน และจ่อถูกคลื่นซัดซ้ำจมหายอีก 8 หลัง รวมแล้วจำนวน 13 หลังที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งชาวบ้านประสบปัญหาเช่นนี้มาแล้วนับ 5 ปี แต่ทวีความรุนแรงมากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
โดยปรากฏให้เห็นบ้านจำนวน 2 หลังถูกคลื่นซัดมาถึงตัวบ้านจนพังเสียหาย เมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา กลายเป็นว่า บ้านถูกปลูกขึ้นอยู่ในทะเล ซึ่งทำให้เจ้าของบ้านต้องยกครอบครัวหนีออกไปอาศัยอยู่บ้านญาติพี่น้อง และบางรายต้องทิ้งถิ่นฐานออกไปเช่าบ้านอยู่นอกพื้นที่
ส่วนบ้านที่อยู่ห่างออกมาพบว่า คลื่นทะเลได้ซัดมาถึงตัวบ้านแล้วเช่นกัน ความแรงของคลื่นได้ซัดพื้นบ้านจนทรุดตัว เซาะนำเอาดินใต้พื้นบ้านออกไปจนเป็นโพรง เสี่ยงที่บ้านจะถล่มลงไป ชาวบ้านต้องนำเอาก้อนหินมารอง เพื่อประคับประคองเอาไว้ รวมไปถึงนำกระสอบทรายมาตั้งป้องกันตัวบ้าน
แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความรุนแรงของคลื่นไว้ได้ รวมไปถึงต้นสนล้มถอนรากถอนโคนเช่นกัน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีความคาบเกี่ยวกันหลายหน่วยงานที่กำกับดูแลและรับผิดชอบพื้นที่ เช่น เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กรมเจ้าท่า เป็นต้น
ที่บ้านเลขที่ 29/4 หมู่ 3 บ้านมดตะนอย นายประเวศ หลงเหละ หรือ บังฉุย อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตนอยู่บ้านหลังนี้มา 6 ปี ขณะที่สร้างบ้านตอนนั้นได้สร้างอยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 100 เมตร แต่ปัจจุบันนี้คลื่นทะเลได้กลืนชายหาดไปหมดแล้ว กลายเป็นว่า บ้านตนอยู่ติดกับทะเลไปเลย
ตอนนี้คลื่นทะเลซัดมาถึงตัวบ้านตนแล้ว ทำให้พื้นบ้านทรุดตัว น้ำทะเลเข้าในบ้าน อยู่กันไม่ค่อยจะได้แล้ว และหลังจากนี้ไปจะหนักขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน และบ้านต้องพังลงไปแน่นอน หากบ้านพังลงไปตนก็ไม่รู้จะไปอาศัยอยู่ที่ไหน เพราะไม่มีที่อื่นให้อยู่ ตนก็อาศัยในบ้านหลังนี้อยู่กัน 6 คน มีเด็กเล็กอายุเพียง 4 วันอาศัยอยู่ด้วย
นายประเวศ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทาง อบต.และผู้นำชุมชนก็เข้ามาช่วยเหลือจากการได้รับผลกระทบอยู่ตลอด แต่อยากให้ทางหน่วยงานระดับจังหวัด เช่น ผู้ว่าราชการ หรือ ระดับกรมฯ กระทรวงฯ ที่มีอำนาจและกำลังสูงกว่าหน่วยงานในพื้นที่เข้ามาดูแล และหาทางแก้ไขอย่างถาวรมั่นคงให้อย่างรวดเร็วที่สุด
เพราะชาวบ้านได้รับผลกระทบเยอะมาก พายุก็เข้ามาเกือบจะทุกวัน เดือนหนึ่งถูกคลื่นใหญ่หรือพายุซัดบ้านประมาณ 2 ครั้ง ยอมรับว่า นอนไม่หลับกันเลย ต้องปล่อยให้น้ำทะเลลดลงไปก่อน ถึงจะได้นอนหลับกัน กลัวมากว่าบ้านจะพังถูกกลืนลงไปในทะเล
ขณะที่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 3 บ้านมดตะนอย น.ส.อรพรรณ เขากรม อายุ 25 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า บ้านตลอดแนวชายหาดถูกคลื่นซัดทั้งหมด ชาวบ้านเดือดร้อนมาก ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบระดับจังหวัดก็เคยลงมาบอกว่า สามารถทำเขื่อนป้องกันใช้เวลาถึง 4 ปี
แต่ชาวบ้านรอไม่ได้ เพราะบ้านจะร่วงลงทะเลแล้ว จึงอยากให้หน่วยงานรัฐเช่นผู้ว่าฯ และหน่วยงานข้างบน เห็นใจชาวบ้าน เข้ามาหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้นทาง อบต.และผู้นำท้องถิ่นก็ช่วยเหลืออยู่ตลอด
ด้าน นายณัฐวัฒน์ ทะเลลึก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านมดตะนอย กล่าวว่า ปัญหาน้ำทะเลกักเซาะชายฝั่งมีปัญหาอย่างต่อเนื่องมาประมาณ 5-6 ปี และเริ่มหนักขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจะรุนแรงจากน้อย จนถึงรุนแรงหนักขึ้นในช่วงนี้ ก่อนหน้าจะเกิดปัญหาชายหาดอยู่ออกไปประมาณ 20 กว่าเมตร จนปัจจุบันกัดเซาะกลืนชายหาดไป มาจนถึงตัวบ้านประชาชน
ประกอบกับระยะหลัง ทะเลจะมีหน้ามรสุมมากกว่าในอดีต ส่งผลทำให้ช่วงน้ำใหญ่ เกิดน้ำทะเลหนุน และพายุ จะทำให้น้ำกัดเซาะ คลื่นซัดบ้านเรือนหนักขึ้น แต่ปีนี้จะหนักกว่าทุกๆ ปี กระทบตามแนวชายหาดมดตะนอย เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร บ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 13 หลัง
นายณัฐวัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทางตน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ประสานไปทาง อบต.เกาะลิบง นายอำเภอกันตัง โดยได้เข้ามาดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านมาโดยตลอด ส่วนทาง อบต.ก็ได้จัดสรรงบประมาณเข้ามาซ่อมแซมบ้านประชาชนที่พังจากถูกคลื่นซัด
ส่วนตนเองก็ได้ประสานผ่านไปยังนายอำเภอกันตัง ให้ทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแล และหาแนวทางที่จะแก้ไข หรือศึกษาปัญหาอย่างเร่งด่วน และก่อนหน้านี้ทางโยธาธิการและผังเมือง ก็ได้มาเปิดเวทีทำประชาคมที่จะทำเขื่อนป้องกันการกัดเซาะ แต่ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ปี ตนจึงคิดว่ากว่าจะถึง 4 ปีที่ได้ทำ บ้านเรือนคงถูกคลื่นซัดพังไปมากกว่านี้ จึงอยากให้ผู้มีอำนาจเร่งเข้ามาหาทางแก้ไขและป้องกันโดยด่วน