‘อาร์ต พศุตม์’ เคลื่อนไหวทันทีหลัง ‘หมอก้อง’ ออกมารับเป็นพระเอก ที่หักหลังเพื่อน

จากกรณีที่ ก่อนหน้าเคยมีประเด็นเรื่องพระเอกดัง ก. แทงข้างหลัง อาร์ต พศุตม์ ซึ่งก็มีคยไปยัง เกรท วรินทร ซึ่งทางอาร์ตเองก็เคยออกมาพูดแล้วว่า ไม่ใช่
หนุ่มเกรท พร้อมโพสต์ขอโทษด้วยว่า เพิ่งเห็นว่าคนโยงไปหาน้องเกรท แต่ไม่ใช่น้องเกรทนะคับน้องนิสัยดีมากเจอผมทุกครั้ง ไหว้ผมทุกครั้ง น้องเกรทน่ารักคับ
อย่าโยนอะไร แย่ไปให้น้องคับ ส่วนเป็นใครนั้น อืมมมม น่าคิดคับ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร อันนี้ต้องขอโทษน้องด้วย ถ้าให้คนเดาไปหาน้อง น้องเค้าแมนพอ น้องเค้า
โดนสอนมาดีจากครอบครัว เค้าไม่ปากไม่ดีแบบนั้นหรอกคับ ไว้ส่งหมูกรอบไปให้ทานนะค้าบบบล่าสุด ได้มีเฉลยดาราอักษรกอไก่ คือ หมอก้อง สรวิชญ์ ได้ออกมาพูดว่า

ยอมรับ ณ ตอนนั้นพูดเรื่องของเขาจริง ตอนที่มีประเด็นอาร์ตออกจากช่อง 3 แล้วเราไม่ได้คุยคนเดียว มีคนมาเล่าให้ฟังแล้วคุยกันด้วยความที่ผู้จัดการคนเดียวกันเลยถามว่า
อาร์ตออกจากช่อง 3 เหรอ เอาจริงๆ มันง่ายมากเลย ถ้ามีปัญหาอะไรอาร์ตสามารถโทรหาได้เลย ไม่ต้องรอให้ถึงวันนี้ มันไม่มีใครผิดทั้งเขาทั้งเรา ถ้ามีการเข้าใจผิดก็ควร
ยกหูเคลียร์กันไม่ได้ใส่ร้ายอาร์ต มันคือข้อเท็จจริงที่เขาหมดสัญญากับช่อง 3 แล้ว ตอนนั้นผมก็จะหมดสัญญาเลยถามว่า ไปเล่นละครช่องอื่นได้เหรอ ถ้าเป็นแบบนี้ แต่ ณ
ตอนนั้นรู้แค่ว่า มีน้องดาราบุคคลที่ 3 เอาไปพูดต่อ แต่เรื่องมันจบไปตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ไม่ได้โกรธที่อาร์ตออกมาพูด เข้าใจได้ จริงๆ เรา 2 คนอาจเป็นเหยื่อของบุคคลที่ 3

ถ้าอาร์ตรู้ว่าผมโดนอะไรจากบุคคลที่ 3 คนนี้ อาร์ตอาจจะเห็นใจผมก็ได้นะหลังจาก หมอก้อง ยอมรับแล้ว เป็นพระเอกดัง ก.เพื่อนดาราหักหลัง อาร์ต พศุตม์ ต่อมาเมื่อไปส่องความเคลื่อนไหวของหนุ่ม อาร์ต ก็พบว่าได้โพสต์ข้อคิดร่ายยาวระบุว่า

ก็อบมาคับอ่านแล้วชอบ แล้วเมื่อไรถึงจะเห็น’ความผิดพลาด’ของตัวเอง

We are quick to see others faults, but are blind to our own. เรามองเห็นความผิดพลาดของคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว แต่กลับทำเป็นมองไม่เห็นเมื่อเป็นความผิดของตนเอง คล้ายกับสำนวนที่ว่า ความผิดคนอื่นเท่าภูเขา..ความผิดตัวเราเท่าเส้นผม’ คนที่ชอบโทษคนอื่น หรือชอบโทษเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัว ลึกๆ แล้วเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนแอ อีโก้สูง เพราะความจริงแล้วการที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ ล้วนมาจากการกระทำของเรา การกระทำของคนอื่นและปัจจัยต่างๆ อีกมากมาย

ทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ มันไม่ได้เกิดจากเราหรือใครเพียงคนเดียว แต่พวกเขาก็เลือกที่จะมองข้าม’ความผิดพลาดของตัวเอง’ แล้วไปเพ่งโทษที่คนอื่นแทน เพราะมันง่ายนอกจากจะเป็นการผลักความรับผิดชอบไปแล้ว ยังทำให้เขารู้สึกผิดต่อตัวเองน้อยลงอีกด้วย

หลายครั้งที่เรารู้สึกโกรธมากเมื่อโดนคนอื่นเอาเปรียบ แต่พอเราเป็นฝ่ายได้เปรียบเอง กลับรู้สึกเฉยๆ แล้วมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยซะงั้น เพราะลึกๆ ในใจของเราก็แอบเข้าข้างตัวเองอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ทำให้บางทีเราก็มองความผิดของตัวเองเป็นเรื่องเล็กๆ . ไม่ได้บอกว่าให้เอาแต่โทษตัวเอง หรือก่นด่าตัวเองซ้ำๆ เมื่อเกิดเรื่องผิดพลาดนะ เพราะแบบนั้นมันก็ไม่ช่วยอะไรเหมือนกัน นอกจากจะทำให้รู้สึกแย่ไปกว่าเก่า แต่อยากให้ #ย้อนมองการกระทำของตัวเองดูบ้าง ลองหาสาเหตุว่าการกระทำอะไรของเรา ที่ทำให้เกิดผลลัพธ์เช่นนั้น?

เราต้องกล้าพอที่จะยอมรับความจริง

กล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง

กล้าที่จะขอโทษออกไปอย่างจริงใจแล้วแก้ไขให้มันถูกต้อง ทุกคนล้วนมีเหตุผลมาซัพพอร์ตการกระทำของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งเหตุผลของเเต่ละคนมันเป็นเรื่องปัจเจค สิ่งที่สำคัญกว่าเหตุผลในการลงมือทำก็คือ มันเกิดผลกระทบอะไรจากการกระทำนั้นมากกว่า เพราะเหตุผลที่เราทำมันอาจจะดีสำหรับเรา แต่มันอาจจะไม่ดีสำหรับคนอื่นก็ได้ไง ดังนั้นควรมองเรื่องส่วนรวมเป็นหลักก่อน #พยายามลดอีโก้ของตัวเองลงบ้าง เราจะไม่มีวันพัฒนาหรือก้าวไปข้างหน้าได้เลย ถ้าไม่สามารถยอมรับและเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตัวเองได้ . สิ่งสำคัญคือ’เราไปแก้ไขที่คนอื่นไม่ได้’ เราทำได้แค่ตระหนักรู้แล้วแก้ไขที่ตัวเองแทน ถ้าการกระทำของคนอื่นมันเป็นพิษต่อเรามากๆ ก็คงต้องพยายามถอยห่างออกมา

– เลิกกล่าวโทษคนอื่น

– เลิกโทษสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่เป็นอย่างใจหวัง

– เลิกโทษดินฟ้าอากาศหรือสิ่งที่ควบคุมไม่ได้

– เลิกโทษตัวเอง แล้วมาหาทางแก้ไข&พัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นกันเถอะ ทุกอย่างอยู่ที่มุมมองและวิธีการคิดของเราทั้งนั้น

dW6I2ee.md.jpeg
dW6IsPt.md.webp
dW6Iu3l.md.jpeg
dW6Inav.md.png
dW6IHQN.md.png
dW6IVnV.md.png
dW6IpZS.md.png
dW6IadQ.md.png

About Areeya Truststore Columnist

View all posts by Areeya Truststore Columnist →

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *