อดีตนักร้องขาร็อกมาดเข้ม บิลลี่ โอแกน ที่อยู่ในวงการมายาวนานกว่า 30 ปี แต่ตอนนี้เจ้าตัวผันตัวเป็นพ่อค้าขายเบอร์เกอร์ พร้อมเปิดใจเส้นทางความรักกับภรรยาสาวนอกวงการ น้ำฝน นันนภัส ที่คบหากันมานานกว่า 10 ปีเป็นครั้งแรก ผ่านทางรายการ “คุยแซ่บ show” ทางช่องวัน 31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรการเป็นนักร้อง จนมาถึงวันนี้ ร้องเพลงมากี่ปี?
บิลลี่ : เป็นนักร้องครั้งแรก ปี 2529
เห็นว่าตอนเล่นคอนเสิร์ตมีนาทีเฉียดตายด้วยเหรอ?
บิลลี่ : สมัยที่เราเป็นนักร้องเนี่ย ยุคนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่ว่าโลกมันเปลี่ยนไปเยอะ สมัยนั้นเราไปเล่นต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะเล่นกลางแจ้งแล้วเขาก็ล้อมรั้ว แล้วสมัยนั้นเป็นเก้าอี้สังกะสีพับได้ เป็นเก้าอี้ที่ใช้ตีกันได้เหมาะมาก ซึ่งต่างจังหวัดเราไปเล่น 3-4 ลักษณะ งานประจำจังหวัด งานฤดูหนาว งานกาชาด สมัยก่อนไม่มีผับ ปีนึงๆ พวกวัยรุ่นต่างอำเภอเขาจะนัดมาเจอกัน เขาก็ประกาศศักดาว่ามาแล้วนะ แล้วตีตรงไหนจะดังเท่าตีกลางคอนเสิร์ต เมื่อก่อนเราอยู่บนเวทีคอนเสิร์ต คนดูก็จะแตกฮือออกเป็นวงกลมได้ข่าวว่าโดนปืนด้วย?
บิลลี่ : มันมีประสบการณ์ที่เจอมาเยอะแล้ว เพราะพวกนี้เวลาเขาตีกัน เขาไม่ได้เอากันถึงตาย เขาตีเพื่อให้จำ แต่ว่าบางงานเราก็เจอประสบการณ์เยอะ บางงานบางทีเขาไม่ได้ตรวจอาวุธเหมือนสมัยนี้ บางงานมันก็มีคนพกอาวุธเข้ามา แล้วส่วนใหญ่จะดื่มเหล้า ผมเคยเจอครั้งหนึ่งที่จังหวัดตาก ผมก็เล่น คนอยู่หน้าเวทีเยอะๆ สักพักก็มีคนแบบเมาๆ เขาก็ชักปืน 11 มม. ออกมา เราก็ตกใจ เราก็ค่อยๆ ถอย ดูแล้วไม่ค่อยปลอดภัย แต่เขาไม่ได้ยิง เราก็ไม่ได้หยุดร้อง แต่คนที่หยุดเหตุการณ์ในวันนั้นคือผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ท่านก็สั่งให้คนมาล็อกตัวคนนั้นออกไป
ตอนนั้นเรามีความรู้สึกกลัวตายบ้างไหม?
บิลลี่ : กลัวสิครับ ใครบ้างไม่กลัวเห็นว่าเคยโดนขโมยแหวน ขโมยทองด้วย?
บิลลี่ : เจอมาทุกรูปแบบ เพราะว่าเวลาเราอยู่บนเวที เราจะอยู่สูงกว่าคนดู พี่บิลลี่ขอจับมือหน่อย พอจับมือปุ๊บ รูดแหวนนี่หว่า
เรื่องขนหัวลุก?
บิลลี่ : ประสบการณ์เป็นนักร้อง มันก็จะสอนอะไรเราหลายอย่าง เพราะว่าเราเดินทางไปต่างจังหวัดตลอดเวลา สมัยที่ผมร้องอยู่ในยุคนั้นโรงแรมมันไม่ได้หรูหราเหมือนสมัยนี้ สมัยก่อนที่เราไปร้อง เรื่องผีต้องเจอกันทุกวงใครจะเจอที่ไหน อย่างที่เชียงใหม่ก็จะมีโรงแรมที่เป็นที่รู้กันในหมู่นักร้องว่าเป็นโรงแรมอะไร อย่างผมก็เจอหลายจังหวัด เอาที่พิษณุโลกก่อนแล้วกัน เมื่อ 30 ปีก่อนเที่ยวบินมีวันละเที่ยว เช้าไป เย็นกลับ เพราะฉะนั้นเราจะไปถึงที่พิษณุโลกเร็วกว่าปกติ เราก็จะนอนก่อน เขาก็จะเปิดห้องให้เรานอน
ระหว่างที่นอนอยู่เราก็คิดว่าวงคงมาถึง เสียงประตูเปิด มีเพื่อนฝูงเข้ามาคุย แล้วเราได้ยินเสียงเบาเว้ย ดูบิลลี่หน่อย เราก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าเป็นพวกมือกีตาร์ แล้วรู้สึกเหมือนมีคนนั่งลงที่เตียงแล้วก้มมาเหมือนเป่าลมที่หู เราก็นึกว่าเป็นมือกีตาร์เรา เราก็เอาแขนปัด แต่มันไม่มีคนอยู่ในห้องเลยแม้แต่คนเดียว แล้วเราก็แจ้งทางโรงแรมว่าขอย้ายห้อง เพราะว่าห้องมันใหญ่ไป เราไม่ได้บอกเขาว่าถูกผีหลอก
เรื่องความรักพี่น้ำฝน แต่งงานกันมา 10 ปี?
บิลลี่ : เร็วมาก ก็เจอกันตอนผมไปเล่นคอนเสิร์ต แล้วเขามาดูคอนเสิร์ตกับเพื่อน เจอกันตอนแรกเราก็ไม่ได้รู้จักกันหรอก เราร้องอยู่บนเวที เรารู้สึกมีเงาใส่ชุดดำยืนกอดอกดู ไม่ได้คุยด้วยนะ แต่หันไปทีไรเห็นผู้หญิงคนนี้ยืนดูอยู่ ที่มันแปลกใจก็คือท่าทางไม่ได้บ่งบอกว่าชอบหรือไม่ชอบ
แวบแรกปิ๊งเลยไหม?
บิลลี่ : ไม่ครับ ไม่ปิ๊ง สงสัยว่าทำไม คือคนเราถ้าไม่ชอบก็จะแสดงออก ถ้าชอบก็แสดงออก แต่นี่นิ่งเกินไป ก็เก็บความสงสัยไว้ แต่ไม่มีโอกาสได้คุยนะ เพราะว่าเขาก็มากับเพื่อน น่าจะ 6-7 คน แล้วมาเจอกันอีกทีตอนเล่น HI5
น้ำฝนตอนนั้นที่ยืนมองกอดอกรู้สึกยังไงบ้าง?
น้ำฝน : เราชอบเพลงเขา แต่ว่าตัวเนี่ยไม่ได้ชอบ แต่มาชอบตอนคุยกันทีหลัง
อะไรที่ทำให้พี่รู้สึกอยากรู้จักเขามากขึ้น?
บิลลี่ : ไม่รู้ แปลกๆ มั้ง เรารู้สึกว่าตอนแรกเขาไม่ได้แสดงออกว่าชอบหรือไม่ชอบไง หลังจากนั้นก็คบกัน 3-4 ปีได้มั้งถึงแต่งงานกัน
แล้วโมเมนต์การขอแต่งงาน?
บิลลี่ : เรารู้จักกันมานานพอ แล้วเราก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะมาคบกันแบบกิ๊กๆ มันคงไม่ใช่ ก็เลยคิดว่าจะแต่งงานกัน แต่ยังไม่ได้บอกเขาว่าขอแต่งงาน ก็เตรียมกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง สมัยนั้นยังไม่มีถ่ายคลิป ก็นัดไปเขาใหญ่ พอได้จังหวะ เราก็บอกเขาว่าเดินไปดูพระจันทร์กันไหม แล้วเราก็ชักแหวนมาขอเขาแต่งงาน
ด้วยอายุที่ห่างกัน 7 ปีทำให้มีช่องว่างที่พูดคุยกันไม่ลงตัวไหม?
บิลลี่ : 7 ปีเอง บางคนห่างกันตั้ง 20 กว่าปี ก็ไม่มีครับ เราอยู่กันแบบเพื่อน เขาเข้าใจหมด เขาฉลาดกว่าผมดีกว่า ผมทำอะไรเขาจะรู้หมด
พี่บิลลี่เป็นคนกลัวเมียไหม?
บิลลี่ : ไม่เคยกลัวเมียเลย แต่ว่าเราอยู่กับใครเราต้องเกรงใจเขา อะไรที่เขาไม่ชอบก็อย่าไปทำ
แล้วอะไรที่ทำให้หยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนนี้?
บิลลี่ : คิดว่าเขามองเราออก เขาดักเราได้หมด เขารู้ทาง เขาอ่านออก มันง่ายกว่าอยู่กับคนที่ไม่รู้จักเรา เราไม่รู้สึกว่าอยู่กับคนแปลกหน้า
ประทับใจอะไรในตัวพี่บิลลี่?
น้ำฝน : เขาเป็นคนสม่ำเสมอ เห็นหน้าตาเข้มๆ แบบนี้เขาก็สวีตนะ
ตอนนี้ขายแฮมเบอร์เกอร์?
บิลลี่ : ก็เป็นงานที่ผมรักมาตั้งนานแล้ว ผมชอบทำอาหาร เป็นคนทำอาหารมาตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว ทำธุรกิจร้านอาหารมาหลายแห่ง เป็นงานที่รักรองจากร้องเพลง แต่เดี๋ยวนี้เราชอบทำงานใกล้บ้าน ผมก็จะมีร้านอาหารอยู่ใกล้บ้าน แต่ช่วงนี้เราไม่เปิดในร้านมานานพอสมควรแล้ว เพราะโควิด แต่เรามีแฮมเบอร์เกอร์กับสปาเกตตีให้คนซื้อกลับบ้าน แล้วก็ผมเป็นคนทำ
เวลาสั่ง ไม่ได้สั่งได้ง่ายๆ?
บิลลี่ : ก็ต้องมาที่ร้าน เพราะผมไม่มีแกร็บ ไม่มีอะไรอย่างนี้
