บ้าน ‘น้องคิตตี้’ อดีตดาราเด็กลุคใหม่ไร้เค้าเดิม ลบครหาในอดีตสวยเหมือนนางเอกดัง

เห็นภาพเธอคนนี้แล้วต้องขยี้ตาแรงเลยทีเดียว สำหรับ คิตตี้ กัจนฐานียา ดาราเด็กสายฮาที่เคยฝากผลงานการแสดงมาแล้วมากมายทั้งภาพยนตร์และละคร ซึ่งหลาย
คนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอกันดีกับภาพลักษณ์สาวหน้าตาทะเล้น กับเอกลักษณ์ผมหน้าม้าเต่อ แต่ น้องคิตตี้ กัจนฐานียา ล่าสุดโตเป็นสาวแล้วในวัย 25 ปี แถมเปลี่ยนลุคสวยแซ่บ
พร้อมรอยสักสุดเท่ที่มองแล้วชวนตะลึง จากวัยเด็กถึงวันนี้เธอเปลี่ยนไปขนาดไหน มาชมพัฒนาการความสวยของดาราสาวคนนี้กัน
สำหรับ คิตตี้ กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ เกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2541 ก้าวสู่วงการในฐานะนักแสดงเด็กที่เรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้ชม ด้วยทรงผมหน้าม้า
เต่อและความตลกจากสีหน้าท่าทางที่เธอแสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยน้องคิตตี้มีผลงานภาพยนตร์ชิ้นเด่น อาทิ อรหันต์ซัมเมอร์, อนุบาลเด็กโข่ง, โหด หน้า เหี่ยว
966, 32 ธันวา, สุดเขต สเลดเป็ด, ส.ค.ส. สวีทตี้ รวมถึงเป็นนักแสดงในละครหลาย ๆ เรื่อง นอกจากด้านการแสดงแล้ว คิตตี้ กัจนฐานียา ยังมีความสามารถด้านการร้องเพลง
จนได้ไปประกวดในรอบบลายด์ออดิชั่นของรายการ The Voice Kids Thailand Season 1 มาแล้วด้วย ปัจจุบันเธอทำงานหลายอย่าง หลัก ๆ จะเป็นออนไลน์รีวิวแนวอินฟลูเอนเซอร์และงานร้องเพลง
จากเด็กน้อยในวันนั้น เมื่อโตเป็นสาวน้องคิตตี้ก็หันมาใส่ใจเรื่องความสวยความงามมากขึ้น ทั้งการจัดฟันและเสริมจมูก ทำให้ดูสวยขึ้น แต่ที่ทำเอาแฟน ๆ ตาค้างก็คือหุ่นสับเซ็กซี่
แถมยังแฝงความเท่จากรอยสักเต็มแผ่นหลัง สลัดลุคเด๋อ ๆ ที่เคยเป็นภาพจำไปซะสนิท ว่าแล้วก็มาซูมดูภาพอดีต-ปัจจุบันของ คิตตี้ กัจนฐานียา กันเลย

ล่าสุดคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี สำหรับ น้องคิตตี้ – กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ กับภาพจำที่เป็นเอกลักษณ์ “เด็กหน้าม้าเต่อในตำนาน”
ก่อนหน้านี้น้องคิตตี้ได้โพสตืภาพของตัวเองลงอินสตราแกรมเป็นภาพนุ่งชุดว่ายน้ำสีน้ำเงินโชว์รอยสักที่เเผ่นหลัง
เเต่เเล้วกลับเกิดดราม่าขึ้นสนั่น ล่าสุด ทำให้น้องคิตตี้เเคปคอมเมนต์ชาวเน็ตเเละเตรียมฟ้องเเล้ว โดยโพสต์นี้เธอเขียนเเคปชั่นว่า

การนั่งรวบรวมหลักฐานคนที่เม้นด่าเราแต่ละทีนี่ไม่ได้ดีเลยนะ555 ไม่สนุกเลย เหมือนฉันต้องมาทวนอ่านอีกรอบ
ต้องมาโฟกัสกับคำพูดแย่ๆพวกนี้อีกรอบ มันทำให้รู้เลยว่าไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน คำพูดแย่ๆมันก็ยังมีอิทธิพลต่อจิตใจคนๆนึงมากๆ
(แล้วไม่ต้องมาโทษเหยื่อนะ ว่าจะไปใส่ใจทำไม จะให้ค่าทำไม สภาพจิตใจของแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ
เอาตัวเองมาตั้งเป็นไม้บรรทัดไม่ได้หรอก ไปโทษอีตัวต้นเรื่องนู่นนน)
คนพิมพ์ไม่กี่วิแล้วแม่งก็ลืม ไม่เคยนึกถึงจิตใจผู้อื่น บางคนหัวหงอกกันแล้ว แต่ยังมานั่งด่าทอคนอื่นเขาไปทั่ว
(อย่ามัวแต่สอนเด็ก หันมาพิจารณาตัวเองบ้างค่ะ) เรื่องนี้มันสอนอะไรตี้ได้เยอะม้ากกก

บางคนโปรไฟล์รูปพระเลยนะ สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม (สิ่งที่คุณศรัทธาไม่ช่วยขัดเกลาจิตใจคุณสักนิดเลยหรอ?
ทำบุญเก๊งเก่งแต่ถ้ายังทำตัวแบบนี้ ก็ไม่ช่วยไรนะคะ คนมีธรรมะในใจเขาไม่ทำกัน ย้อนแย้งสุดๆ)
บุญ/กรรม คือ “ผลจากการกระทำ” ที่เราก่อเองทั้งนั้นค่ะ นี่คือสัจธรรม
แต่เรื่องไรฉันจะต้องรู้สึกแย่อยู่คนเดียวล่ะเนอะ เชิ่ดค่ะ!! มาสร้างความทุกข์ให้คนอื่น คุณก็ควรได้รับผลของการกระทำของตัวเอง
จงยอมรับให้ไหว (เหมือนที่คุณบอกกับเราว่า”เป็นคนดังต้องยอมรับคำด่าให้ได้”)

ฝากไว้ให้ใครอีกหลายคนได้คิด ก่อนจะพิมพ์อะไรไม่ว่าจะกับใคร หรือข่าวไหน ควรคิดให้รอบคอบก่อนนะคะ
อย่าปล่อยให้ความสะใจเพียงไม่กี่วิของคุณมาทำลายผู้อื่น และทำร้าย “ตัวคุณเอง”

ปล.ตี้ไม่ได้เครียดไรกับมันมากแล้วนะคะ แค่อยากบ่นเฉยๆ ไม่ต้องห่วง ส่วนนึงที่ทำให้ผ่านมาได้
ก็เพราะยังมีคำพูดดีๆ และพลังบวกจากคนที่น่ารักๆอีกหลายคนเลยค่ะ ขอบคุณจากใจจริงๆคับ