ส่องขุมทรัพย์ ‘เจนี่ อัลภาชน์’ รวยไม่ธรรมดา เปิดธุรกิจแท้จริงทำอะไรบ้าง

บริษัทที่ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” นั่งเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้น คือ บริษัท โนล่า เอ็น จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการถ่ายแบบรีวิวสินค้าทุกชนิด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท มีกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 2 คนคือ นายนนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร และ นางสาวเจนี่ ณ ป้อมเพชร โดยการลงชื่อผูกพันด้วยกรรมการ 1 คน

“เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ยังเป็นผู้ถือหุ้น อันดับที่ 2 ของบริษัท โนล่า เอ็น จำกัด จำนวน 4,999 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน49.99%
สำหรับงบการเงินนำส่ง ปี 2566 ของบริษัท โนล่า เอ็น จำกัด พบ

สินทรัพย์รวม 3,222,401 บาท
หนี้สินรวม 2,531,445 บาท
รายได้รวม 470,841 บาท
รายจ่ายรวม 684,280 บาท
ขาดทุนสุทธิ 213,438 บาท
ในขณะที่ ผลประกอบการ ปี 2565 พบขาดทุนสุทธิ 95,604 บาทอีกหนึ่งบริษัท ที่พบชื่อ นางสาวเจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร หรือ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” เป็นกรรมการอยู่ด้วยนั้น คือ บริษัท เบลสบายเจที จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอาง เวชสำอาง ภายในประเทศ และต่างประเทศ จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท มีกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 2 คนคือ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” และนางชไมพร เทียนโพธิสุวรรณ์(มารดา)

ปัจจุบันสถานะบริษัทได้เสร็จการชำระบัญชีแล้วเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563

และเจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร จับมือ วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ทำธุรกิจ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ SEWA GOLDEN GINSENG CREAM โดยเจนี่ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนแรกก็คิดเยอะ ว่าถ้าทำกับเพื่อนจะเป็นยังไง จะทะเลาะกันไหม แต่ต่อมาก็ตกลงกันไว้ว่า ถ้ามีอะไรให้บอกกันตรงๆ รู้สึกยังไงก็ให้พูด 

“จริงๆ การที่ทำธุรกิจเป็นอะไรที่สำคัญมากกับการ ที่เราไม่ต้องเก็บเอาไว้ ชัดเจน เคลียร์ตั้งแต่วันแรก”

ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่ากับวุ้นเส้นก็มีความสนิทสนม

“อยู่กลุ่มเดียวกับเจนมา 20 กว่าปีแล้ว ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาตลอด ทั้งตีกันๆ (ยิ้ม) จนมีวันนี้ แล้วเจนก็มั่นใจว่าเราไม่ตีกันแล้ว ถึงเราจะตีกัน เราก็จะตีกันในวงนี้ แต่เราไม่ตีกันเรื่องธุรกิจนี้แน่นอน”

“ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ตีกันอีก” 

“ตีกันได้ ตีกันเพื่อให้เราเข้าใจกันมากขึ้น คุยกันปรึกษากันให้เข้าใจกันมากขึ้น” เธอบอกพลางยิ้ม

เจนี่ยังพูดถึงข้อดีของการทำธุรกิจร่วมกันกับเพื่อนว่า “เป็นอะไรที่เราได้แชร์ร่วมกัน ได้มีความไว้วางใจ และรู้สึกว่าช่วยกันทำมาหากิน มันก็เป็นอีกขั้นของชีวิต เป็นสเต็ปที่เราจับมือไปพร้อมกัน จากแต่ก่อนคือเจอกันกินข้าวกัน ตอนนี้เจอกัน อยู่ด้วยกัน ช่วยกันทำธุรกิจ ช่วยกันทำมาหากิน”

เมื่อถามถึงการลงทุน ว่าลงไปเยอะขนาดไหน นักแสดงคนดังบอก “ก็อยู่ในงบ 100 ล้านค่ะ”

ส่วนงานในวงการเจนี่บอกไม่ทิ้ง ยังรักที่จะทำงานละครอยู่ และยังมีสัญญากับช่อง 3 

“ตรงนี้ก็เป็นเหมือนอีกบทบาทของชีวิตที่เจนรู้สึกว่าเราโตแล้วนะ ถ้ามาทำธุรกิจหรือทำอะไรที่มันชัวร์กับชีวิต แล้วทำให้ชีวิตเราเหมือนเป็นอีกระดับมีความมั่นคงขึ้น เป็นอะไรที่สำหรับวัยเราก็ควรที่จะเริ่มได้แล้ว”

ขณะเดียวกันลูกก็เป็นอีกแรงผลักดันที่สำคัญ

“เจนรู้สึกว่าเราต้องทำอะไรให้เขา ต้องมีอะไรให้เขา แล้วเหมือนเรามองตาเขาทุกเช้า แล้วก็…แม่อยากทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุดให้กับเขาได้” เจนี่เผยความรู้สึกพลางยิ้ม

ในส่วนงานละครเจนี่บอกว่าเอยากเล่นอะไรที่ท้าทายตัวเอง

“แล้วเจนว่าทุกคนน่าจะชอบอะไรแบบ ใจเริง มุนินทร์ หรืออะไรที่มันเหมาะ เชียร์อยากให้เจนเล่นบทแรงๆ”

“ก็กำลังดูอยู่”